การผ่าตัดมดลูกในปัจจุบันมี 3 วิธี
การผ่าตัดมดลูกในปัจจุบันมี 3 วิธี การผ่าตัดมดลูกเป็นการผ่าตัดที่สำคัญ และเป็นทางเลือกในการรักษาโรคบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับมดลูก เช่น มะเร็งมดลูก เนื้องอกมดลูก มดลูกหย่อน หรือภาวะมีเลือดออกผิดปกติที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ เป็นต้น ผ่าตัดทางหน้าท้อง คือ ทำแผลยาวตามแนวตั้งหรือแนวนอน ประมาณ 10 – 15 ซ.ม. เปิดหน้าท้อง แล้วตัดมดลูก หรือ hysterectomy การผ่าตัดแบบนี้มักจะต้องมีการวางยาสลบ และการฟื้นตัวหลังผ่าตัดอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ โดยต้องดูแลแผลผ่าตัดให้ดีและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ผ่าตัดทางช่องคลอด หมายถึง ผ่าเข้าไปตัดมดลูกผ่านทางปลายของช่องคลอด แล้วเอามดลูกออกทางช่องคลอด แล้วเย็บปิดปลายช่องคลอด การผ่าตัดทางช่องคลอดมักจะมีข้อดีในเรื่องการฟื้นตัวที่เร็วกว่าและมีแผลที่น้อยกว่าการผ่าตัดทางหน้าท้อง การผ่าตัดโดยวิธีส่องกล้อง โดยเจาะรูเล็ก ๆ ที่หน้าท้องแล้วใช้เครื่องมือสอดเข้าไปตัดมดลูก เอามดลูกที่ถูกตัดออกทางช่องคลอดหรือย่อยเป็นชิ้นเล็ก ๆ ออกทางหน้าท้อง วิธีนี้ทำให้เจ็บแผลน้อย โรคแทรกน้อย ฟื้นตัวเร็ว
โรคไหนบ้างที่จำเป็นต้องตัดมดลูก
โรคไหนบ้างที่จำเป็นต้องตัดมดลูก การการผ่าตัดมดลูกถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิงทุกคน โดยทั่วไปโรคทางนรีเวชที่รักษาด้วยการผ่าตัดมดลูกอาจสามารถรักษาได้ด้วยวิธีอื่นๆ สาวๆจึงควรปรึกษาถึงทางเลือกในการรักษาต่างๆ กับแพทย์ผู้ดูแลก่อนที่จะเลือกวิธีผ่าตัดมดลูก โดยการตัดมดลูกเป็นการผ่าตัดมากที่สุดในอเมริกามีตัวเลขทำการผ่าตัดมดลูก 600,000 รายต่อปี แต่ถึงยังไงก็แล้วแต่ก่อนเริ่มการผ่าตัดหรือตัดสินใจผ่าตัดควรปรึกษาแพทย์ถึงข้อดีข้อเสียของการผ่าตัด โดยสามารถสอบถามแพทย์ได้แล้วที่ The Woman Clinic โรคที่ควรผ่าตัดมดลูกมีดังนี้ เนื้องอกบริเวณมดลูก เป็นโรคที่มีการตัดมดลูกมากกว่าโรคอื่น ๆ มักเป็นเนื้องอกมดลูกที่โตมาก หรือทำให้ปวดหรือทำให้ประจำเดือนมามาก เนื้องอกมดลูกถ้าไม่มีอาการอะไรหรือใกล้จะหมดประจำเดือนแล้ว อาจไม่จำเป็นต้องตัดมดลูก เนื่องจากเมื่อหมดประจำเดือนเนื้องอมดลูกจะเล็กลง โรคเยื่อบุโพรงมดลูกขึ้นผิดที่ คือ ภาวะที่เยื่อบุโพรงมดลูกเกิดไปเจริญอยู่นอกโพรงมดลูก ได้แก่ ในเนื้อของมดลูก หรือข้าง ๆ มดลูก ในอุ้งเชิงกราน ถ้ามีอาการปวดมาก หรือเลือดประจำเดือนมาก หรือหลังจากเมื่อรักษาทางยาไม่ได้ผล หรือ ผ่าตัดวิธีอื่นไม่ได้ผล มดลูกหย่อน เกิดจากมดลูกหย่อนออกมาทางช่องคลอดต่ำกว่าที่ควรจะเป็น แล้วมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปวด ถ่ายปัสสาวะ ไปถึง อุจจาระผิดปกติ หรือเกิดแผลกดทับที่ปากมดลูก มะเร็ง ไม่ว่าเป็นมะเร็งที่ปากมดลูก มดลูกหรือรังไข่ ถ้าอยู่ในช่วงที่ผ่าตัดได้ มักตัดมดลูกออกไปด้วย เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดที่แก้ไขโดยการใช้ยาแล้วไม่ได้ผล อาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง โดยมีต้นเหตุมาจากพยาธิสภาพในมดลูก หรือเส้นเอ็นที่ยึดมดลูก ถ้าไม่ได้เกิดจากมดลูกหรือรังไข่ ก็อาจไม่ได้ผล
ผ่าตัดมดลูก/รังไข่ แบบส่องกล้อง (Laparoscopic Surgery)
ผ่าตัดมดลูก/รังไข่ แบบส่องกล้อง (Laparoscopic Surgery) การผ่าตัดมดลูก/รังไข่แบบส่องกล้องคืออะไร? การผ่าตัดมดลูก/รังไข่แบบส่องกล้อง (Laparoscopic Hysterectomy / Oophorectomy) เป็นการผ่าตัดผ่านกล้องขนาดเล็กโดยมีแผลเล็ก ใช้เทคโนโลยีทันสมัย ช่วยให้ฟื้นตัวเร็ว เจ็บน้อย และปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับมดลูกหรือรังไข่ เช่น เนื้องอก ซีสต์ หรือภาวะผิดปกติอื่น ๆ จุดเด่นของการผ่าตัดส่องกล้อง ✅ แผลเล็ก ไม่ทิ้งรอยใหญ่ ✅ ฟื้นตัวเร็ว เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด ✅ ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน ✅ ทำโดยแพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญ ✅ ได้มาตรฐานความปลอดภัยระดับโรงพยาบาล ราคาโปรโมชั่น ✨ เริ่มต้นเพียง 90,000 บาท เหมาะสำหรับใคร? ผู้ที่มี เนื้องอกมดลูก ซีสต์รังไข่ หรือก้อนผิดปกติ ผู้ที่มีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง ผู้ที่มีปัญหาประจำเดือนผิดปกติหรือเลือดออกมากผิดปกติ ผู้ที่ต้องการผ่าตัดด้วยวิธีที่ เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว การดูแลหลังทำ พักผ่อนเพียงพอ 1–2 สัปดาห์ งดยกของหนักและออกแรงมาก ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด […]
