รีแพร์คืออะไร ทำไมเราต้องทำรีแพร์ ?

รีแพร์ (Repair) หรือ การซ่อมแซม คือ การผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อที่หย่อนยานภายในช่องคลอดให้กระชับขึ้น ลดปัญหาช่องคลอดหย่อนยาน หรือช่องคลอดกว้างผิดปกติ เกิดจากการคลอดบุตรหลาย ๆ คน ผ่านการคลอดบุตรแล้วช่องคลอดเกิดฉีกขาด และไม่ได้รับการเย็บรักษา

หรือเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ ตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้ช่องคลอดผ่านการใช้งานมาก ปัญหาช่องคลอดหย่อนยานอย่างรุนแรง หากละเลย และทนอยู่กับปัญหานี้ไปเรื่อยๆ จะเป็นการบั่นทอนความรู้สึก ทำให้ขาดความมั่นใจในตนเอง ไม่มีความสุขในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ โดยมีปัญหาตามมาซึ่งมักเกิดอาการปัสสาวะเล็ด หรือปัสสาวะซึม มดลูกเคลื่อนย้อยลงมาในช่องคลอด อาการปัสสาวะเล็ด และซึมนี้มักจะเกิดขึ้นในเวลาไอ ยกของหนัก หรือแม้กระทั่งเวลาที่เดินเล่น

โดยการทำรีแพร์ เป็นการผ่าตัดตกแต่งช่องคลอดที่หย่อนยานให้มีความกระชับขึ้นคืนวัยสาวให้แก่ผู้หญิง และยังเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาภายในช่องคลอดให้แก่ผู้หญิง

การผ่าตัดยกกระชับช่องคลอดเพื่อแก้ไขปัญหา

การผ่าตัดแบ่งเป็น

  1. การผ่าตัดเฉพาะด้านหลัง [PORTERIOR REPAIL]สามารถทำผ่าตัดเล็กโดยการฉีดยาชาได้
  2. การผ่าตัดใหญ่ [AP-REPAIR]เป็น การผ่าตัดทั้งด้านหน้า และด้านหลังของผนังช่องคลอดเพื่อรักษาอาการปัสสาวะ เล็ด มดลูกหย่อนยาน กระบังลมหย่อน ปวดท้องน้อย ต้องดมยาสลบ หรือฉีดยาชาที่สันหลัง และต้องพักที่โรงพยาบาลประมาณ 1 – 2 วัน

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

เทคนิคการผ่าตัด

เทคนิคที่ 1 การผ่าตัดเล็ก ซึ่งมีวิธีการดังนี้

  1. แพทย์ใช้ยาชาฉีดบริเวณบริเวณรอบ ๆ ช่องคลอดด้านนอก โดยไม่ต้องดมยาสลบ
  2. แพทย์จะผ่าตัดแต่งผนังช่องคลอดล่าง พร้อมทั้งตัดผนังส่วนเกินของช่องคลอดออกแล้วเย็บผนังเข้าหากันเพื่อช่องคลอดจะมีความกระชับมากขึ้น
  3. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการผ่าตัด หลังจากนั้นก็สามารถกลับบ้านได้
  4. หลังจากผ่าตัดแล้ว 7 วัน แพทย์จะนัดให้มาดูความเรียบร้อยของรอบแผลผ่าตัด

ส่วนในกรณีที่คนไข้มีภาวะช่องคลอดหย่อนยานอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นร่วมกับ การปัสสาวะเล็ด ปัสสาวะซึมบ่อย ๆ มดลูกหย่อน กระบังลมหย่อน ปวดท้องน้อยเวลามีเพศสัมพันธ์ และอาการอื่น ๆ ที่ผิดปกติ ในบริเวณช่องคลอด แพทย์จะใช้การผ่าตัดใหญ่

เทคนิคที่ 2 การผ่าตัดใหญ่ จะมีขั้นตอนและวิธีการมากกว่าการผ่าตัดเล็ก ดังนี้

  1. มักผ่าตัดโดยวิธีวางยาสลบ
  2. การผ่าตัดใหญ่ แพทย์จะใช้วิธีการผ่าตัด ตกแต่งทั้งด้านหน้า และด้านหลังของผนังช่องคลอดรวมไปถึงกระบังลมที่หย่อนยาน
  3. การผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง
  4. หลังจากผ่าตัด แพทย์จะให้คนไข้นอนพักที่โรงพยาบาล ประมาณ 2 วัน

การดูแลหลังการผ่าตัด

  1. งดการยกของหนัก ประมาณ 2 สัปดาห์
  2. รับประทานอาหารได้ตามปกติ และควรรับประทานอาหารที่มีกากใยอาหารมาก ๆ ดื่มน้ำมาก ๆ
  3. ไม่กลั้นปัสสาวะ หรืออุจจาระ
  4. ถ้ามีอาการบวมมากๆ เขียวช้ำมาก หรือปัสสาวะไม่ออก กรุณาปรึกษาแพทย์
  5. แผลจะหายภายในระยะเวลา 7 – 10 วัน โดยไหมจะละลายไปเองไม่ต้องตัดไหม
  6. ทำความสะอาดแผล โดยการแช่ก้นในน้ำอุ่นประมาณ 5 นาทีวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 1 สัปดาห์
  7. รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ และมาพบแพทย์หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์
  8. ควรงดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 30 วัน