เพิ่มขนาดอวัยวะเพศหญิง (Labia Lipofilling)

การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศหญิงคืออะไร? ทำไมคนเราจะต้องเพิ่มขนาดอวัยวะ ?

ใช้สำหรับแก้ไขรูปร่างของอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก บริเวณที่เรียกว่า “กระดูกหัวหน่าว” หรือ “แคมใหญ่” จะกลับมาอวบอิ่มและเต่งตึงอีกครั้ง โดยการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศหญิง ทำในคนที่มีไขมันส่วนบริเวณหัวเหน่าน้อยกว่าปกติ หัวหน่าวจะมีลักษณะแบนราบกว่าคนอื่น ๆ นอกจากนั้นแล้วในเวลาที่อายุมากขึ้น ผิวหนังส่วนต่าง ๆ จะมีการหย่อนยาน และตัวไขมันที่เป็นส่วนประกอบหลักในตัวบริเวณหัวหน่าว จะลดลงทำให้แบนลงมากดูไม่สวยงาม นอกจากนั้นในคนที่เคยผ่านการแปลงเพศมาแล้ว จะมีการตัดไขมันบางส่วนออกไปมาก ทำให้อวัยวะภายนอกแบนและเหี่ยวย่นเกินไป นอกจากการตัดผิวหนังส่วนเกินออกให้ตึงขึ้น

หากใครที่ไม่อยากจะตัดผิวหนัง ยังมีวิธีการเพิ่มไขมันก็ถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่ง โดยการเพิ่มขนาดของอวัยวะเพศหญิง อาจใช้การฉีดคอลลาเจน หรือ สารกลุ่มไฮยาลูแรน แต่เนื่องจากการฉีดเพิ่มขนาดนั้นมีราคาที่สูง เพราะต้องใส่สารปริมาณมากพอสมควร จึงจะเพิ่มขนาดได้เพียงพอ และหลังจากฉีดครั้งแรกต้องคอยฉีดเติมทุก 1 ปี จึงทำให้ไม่เป็นที่นิยม

มีอีกวิธีในการฉีดเพิ่มไขมันโดยใช้ไขมันจากบริเวณหน้าท้อง หรือ ต้นขาของตนเอง เป็นวิธีการที่ได้ผลระยะยาวมากกว่า และมีอันตรายที่น้อยกว่า เนื่องจากไขมันที่ใช้ฉีดเป็นการใช้ไขมันจากร่างกายตนเอง จึงมีอันตรายน้อยและสามารถฉีดในปริมาณมากได้โดยที่ค่าใช้จ่ายไม่สูงเกินไป โดยปกติไขมันจะนำมาใช้ฉีดบริเวณหัวหน่าว หรือ แคมใหญ่

วิธีการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศหญิง

  1. การฉีดฟิลเลอร์: เป็นวิธีที่นิยมทำกันมากที่สุด โดยการฉีดสารเติมเต็ม เช่น ไฮยาลูรอนิก แอซิด เข้าไปในบริเวณที่ต้องการเพิ่มขนาด ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี
  2. การปลูกถ่ายไขมัน: นำไขมันส่วนเกินจากร่างกายมาฉีดเข้าไปในบริเวณที่ต้องการ ผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติ แต่ไขมันอาจสลายตัวไปบ้าง
  3. การผ่าตัด: เป็นการผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดของแคมใหญ่ (labia majora) โดยการตัดและเย็บเนื้อเยื่อให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
  4. การใช้เลเซอร์: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณอวัยวะเพศมีความยืดหยุ่นและเต่งตึงมากขึ้น

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

  1. งดน้ำ งดอาหาร 6 ชั่วโมง ก่อนการผ่าตัด
  2. ควรเตรียมหยุดงาน 1 – 2 วัน
  3. ถ้ามีโรคประจำตัว หรือ กินยาประจำ กรุณาแจ้งให้แพทย์ทราบ
  4. งดยาการต้านอักเสบ (NSAID) เช่น แอสไพริน บุหรี่ อาหารเสริมบางตัวที่มีผลของการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนการผ่าตัด
  5. ปรึกษาแพทย์ถึงตำแหน่งที่ต้องการดูดไขมัน และตำแหน่งที่จะฉีดไขมัน
  6. ควรมีเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด
  7. เก็บสิ่งของมีค่าไว้ที่บ้าน ไม่ควรนำสิ่งของมีค่ามาที่โรงพยาบาล
  8. ในช่วงมีประจำเดือนไม่ควรผ่าตัด

ขั้นตอนการผ่าตัด

  1. ทำโดยดมยาสลบ หรือ ฉีดยาชา ถ้าต้องการฉีดไขมันในปริมาณที่มาก แนะนำให้ดมยาสลบดีกว่า
  2. แพทย์จะเปิดแผลที่ขาหนีบ สอดสายที่ดูดไขมัน ดูดไขมันที่บริเวณหน้าท้องหรือต้นขา
  3. กรองแยกเซลล์ไขมัน
  4. เปิดแผลที่จะฉีดไขมัน
  5. ฉีดไขมันในปริมาณและตำแหน่งที่ต้องการ
  6. เย็บปิดแผลด้วยไหมเส้นเล็ก

การดูแลหลังการผ่าตัด

  1. นอนพักที่โรงพยาบาลประมาณ 1 วัน ถ้าดมยาสลบ
  2. ใช้เบตาดีนเช็ดแผลเช้า-เย็น
  3. เปิดผ้าก๊อซ ปิดแผลในวันที่ 2
  4. ระวังพลาสเตอร์เปียกน้ำ
  5. จะมีอาการเขียวช้ำที่ดูดและฉีดไขมันประมาณ 2 อาทิตย์
  6. นัดตัดไหมประมาณ 5 วัน